กรณีศึกษา : วิธีการที่ STARBUCKS ใช้ในการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัลและสังคม
1. ปัญหาของ Starbucks คืออะไร เหตุใด Starbucks จึงเลือกแนวทางของเครือข่ายดิจิทัลและสังคม
มาแก้ปัญหาของธุรกิจที่เกิดขึ้น
ปัญหาของ Starbucks คือรายได้จากการดำเนินงานของบริษัทลดลงอย่างมาก มากกว่า 1 พันล้านเหรียญในปี 2550 เป็น 504 ล้านเหรียญต่อปี 2008 และ 560 ล้านเหรียญในปี 2009 ในภาวะที่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวยังมีการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง
เช่น Green Coffee Mountain Roasters ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นแม้ในระหว่างที่ภาวะถดถอย
Starbucks จึงมีความจำเป็นต้องตระหนักถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของตน
บริษัทจึงตัดสินใจแก้ไขปัญหาโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้วยการนำ Social
network ทุก site มาเชื่อมต่อกัน
สร้างขึ้นภายใต้concept และ Direction เดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ข้อมูลข่าวสารที่ดี
สามารถพูดคุยติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและไอเดียจากลูกค้าโดยตรง
และการสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าซึ่งมีคุณค่ามหาศาลไม่น้อยสำหรับ Starbucks จึงเป็นเหตุที่ Starbucks เป็นที่ครองใจลูกค้ามาอย่างช้านาน
2. อธิบายว่าการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของร้านค้า Starbucks ในรูปแบบเดิม มาริเริ่มโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
ทำให้ในปี 2010 ผลการดำเนินงานแสดงรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยมีรายได้ 1.437 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับรายได้ 560 เหรียญล้านในปี 2009 ซึ่งส่งผลต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้นของStarbucks และในปี 2011รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,750 ล้านเหรียญ
ตั้งแต่รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความคิดริเริ่มด้านสื่อสังคมของบริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในปี 2012
Starbucks มีรายชื่ออยู่ในนิตยสารฟอร์จูนว่าเป็นหนึ่งในสื่อสังคมชั้นนำ
และในปี 2008 ได้รับรางวัล 2008
Groundswell Award จากสถาบันวิจับ Forrester เว็บไซต์ของStarbucks เป็นที่นิยมอย่างมากใน Facebook ซึ่งมีแฟนเพจนับล้าน ๆ คน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าดาราชื่อดังในสหรัฐอเมริกา
3. วิเคราะห์โครงการสื่อสังคมออนไลน์
ของ Starbucks ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่นWebsite,
Facebook, Twitter, Google+, Youtube, Flickr, และ Instagramเป็นต้น ว่ามีจุดเด่น และจุดด้อยอะไรบ้าง
และนำเสนอสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขบนสื่อเหล่านั้น
จุดเด่น
🔺 ภาพหน้าปก Facebook Fanpage, Website หรือ Application ของ Starbucks
Thailand. มีความโดดเด่น ชัดเจน
และบ่งบอกถึงลักษณะของสินค้าที่ทางร้านจำหน่าย บ่งบอกถึงความเป็น Facebook
Fanpage ของแบรนด์สินค้า
รวมไปถึงใช้รูปภาพหน้าปกส่งเสริมการขาย หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เพื่อให้ผู้บริโภคที่ติดตาม
🔺 แถบเมนูต่าง ๆ หน้า Facebook
Fanpage, Website หรือ Application ของ Starbucks Thailand. เป็นส่วนที่ให้ข้อมูลเบื่อต้นเกี่ยวกับแบรนด์ ทำให้ผู้ที่สนใจทราบถึงข้อมูลที่แบรนด์ต้องการนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว
เช่น ข้อมูลการติดต่อ เมนูรวม รูปภาพ เมนูรวมวิดีโอ เป็นต้น
🔺 โพสต์จากผู้เข้าชมหน้า Facebook Fanpage หรือ Website ของ Starbucks Thailand. เป็นส่วนที่ให้สมาชิกของ Facebook Fanpage หรือ เข้ามาแสดงความเห็น
พูดคุยกับแบรนด์หรือกับสมาชิกด้วยกันเองแบบไม่เป็นความลับ
ที่สามารถแสดงความเห็นได้ทั้งรูปแบบข้อความ วิดีโอ และอีโมติคอน
ซึ่งทำให้ลูกค้าที่สนใจในตัวแบรนด์สามารถตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการของร้านได้
🔺 กระดานข้อความหรือคำประกาศแจ้งข่าวสารต่างๆหน้า Facebook Fanpage, Website หรือApplication ของ Starbucks Thailand. ทำให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
รวมทั้งสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ข้อความ Facebook Fanpageหรือ Website
🔺 ทางข้อความในMailเมื่อลูกค้าทำการสมัครสมาชิกและยืนยันการลงทะเบียนแล้ว จะมีข่าวสาร
หรือสิทธิพิเศษแจ้งให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกทราบก่อนเป็นอันดับแรก
ซึ่งเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าสนใจที่จะสมัครสมาชิกกับทางแบรนด์
จุดด้อย
🔺 ทางแบรนด์เป็นแบรนด์ของต่างประเทศทำให้ภาษาที่ใช้แจ้งข่าวสารโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อตัวลูกค้าบางกลุ่ม
🔺 เมื่อไม่ได้มีการเข้าใช้ Application เป็นระยะเวลานานระบบจะทำการล็อคเอาท์ออกทันที
เป็นปัญหากับคนที่จำรหัสหรือเมลล์ที่ใช้สมัครไม่ได้
🔺 การส่งเมลล์ของแบรนด์บางครั้งจะเป็นเมลล์ขยะเนื่องจากการจัดส่งที่ผิดพลาด
🔺 ในบางข่าวสารเกี่ยวกับเมนูตัวใหม่
หรือกิจกรรมใหม่ทางแบรนด์ไม่ได้มีการแจ้งรายละเอียดที่ครบถ้วน
ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจและไม่กล้าตัดสินใจที่จะซื้อหรือใช้บริการ
🔺 ราคาของเมนูมักไม่บอกส่วนลดทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจกับราคาจริงของสินค้านั้น
ข้อเสนอแนะ
🔺 ทางแบรนด์ควรเพิ่มข้อความหรือเมลล์เป็นภาษาที่หลากหลายเพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น
🔺 Application ของแบรนด์ควรมีความเสถียรมากกว่าปัจจุบัน
4. อธิบายว่าเครือข่ายดิจิทัลและสังคม
ทั้งโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการสื่อสังคมออนไลน์
มีส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความภักดีกับลูกค้าของ Starbucks ได้อย่างไร
สตาร์บัคส์
ได้นำโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
และโครงการสื่อสังคมออนไลน์มาใช้เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีและความภักดีกับลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็น STARBUCKS CARD (บัตรสมาชิก), STARBUCKS REWARDS (ระบบสะสมแต้ม), ระบบ E-Wallet, แอปพลิเคชันสำหรับสั่งกาแฟก่อนถึงหน้าร้านได้, ร้านค้าออนไลน์, ใช้สื่อFACEBOOK,
LINKEDLN, GOOGLE+,TWITTER, YOUTUBE, FLICKR, INSTAGRAM ในการอัพโหลดวีดีโอ
โพสต์ ลงรูปถ่าย โปรโมชันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอพิเศษ
สตาร์บัคส์ได้สร้างเครือข่ายดิจิทัลและสังคมเพื่อสนับสนุนกิจกรรมแบบดิจิทัล
โดยใช้เครือข่ายดิจิทัลของStarbucks ในการเป็นหุ้นส่วนกับผู้บริการสื่อรายใหญ่
เช่น iTunes, AIS เป็นต้น เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าใช้บริการได้สะดวกขึ้น
เข้าถึงโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้น
ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในสตาร์บัคส์มากยิ่งขึ้นแล้วกลับมาใช้บริการของสตาร์บัคส์
5. วิเคราะห์ปัจจัยความสำเร็จในการนำเครือข่ายดิจิทัลและสังคม
มาใช้ในการดำเนินงานของ Starbucks ประกอบด้วยปัจจัยอะไรบ้าง
🔺 Starbucks ทำการสื่อสารทางการตลาดผ่านเว็บไซต์
และเครือข่ายสังคมออนไลน์ ต่างๆ
เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้สร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างตราสินค้าและผู้บริโภค
และการแบ่งปันประสบการณ์ ระหว่างผู้บริโภค เพื่อน คนรู้จัก
หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จัก ผ่านการบอกต่อ
ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างตราสินค้ายุคใหม่
🔺 การทำแอพพลิเคชั่น Starbucks ในปี 2011 เพื่อจ่ายค่ากาแฟ ดูแต้มสะสม หรือแม้กระทั่งให้ทิปบาริสต้า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นเป็นการสนับสนุนภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างหนึ่ง
ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการบริการ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้
🔺 Starbucks ให้ประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า
ทั้งด้านคุณภาพของวัตถุดิบ รสชาติเครื่องดื่มและอาหารที่มีมารตฐานเดียวกันทุกสาขา
บรรยากาศของร้าน การบริการที่ดี และสามารถสั่งกาแฟแบบดัดแปลงตามใจลูกค้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น